1. น้ำเต้าหู้
เครื่องดื่มเจเพื่อสุขภาพเมนูแรกที่ต้องนึกถึงคงหนีไม่พ้นการทำน้ำเต้าหู้ ใครเคยลองทำน้ำเต้าหู้แล้วรสชาติไม่ถูกจริตบ้างคะ ? มีทั้งกลิ่นเหม็นเขียวและออกขมด้วยซ้ำ ต้องมาดูวิธีทำน้ำเต้าหู้สูตรจาก RinS CookBook แบบโฮมเมดไว้กินเอง แล้วจะพบว่า น้ำเต้าหู้ทำอร่อยได้ง่าย ๆ สูตรนี้พิเศษที่มีการใส่ถั่วลิสงและอัลมอนด์ลงไปเพิ่มความหอมมันและความเข้มข้น ลองทำดื่มนะคะ ได้สุขภาพอีกด้วย
ส่วนผสม น้ำเต้าหู้
ถั่วเหลือง 16 ออนซ์ (ประมาณ 453 กรัม)
ถั่วลิสง 1 ถ้วย
อัลมอนด์ 1 ถ้วย
น้ำเปล่า 6 ถ้วย (อัตราส่วน 1:3)
น้ำตาลทรายแดง หรือน้ำตาลทรายขาว (สำหรับเพิ่มความหวาน)
วิธีทำน้ำเต้าหู้
1. ใส่ถั่วเหลือง ถั่วลิสง และอัลมอนด์ลงในอ่างผสมแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นแช่น้ำให้ท่วมทิ้งไว้อย่างน้อย 8 ชั่วโมง (หลังจากแช่น้ำทิ้งไว้จนครบเวลาแล้ว ถั่วที่ได้จะพองขึ้นเป็น 3 เท่า)
2. ใส่ถั่วที่แช่น้ำแล้ว 3 ถ้วยลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำเปล่า แล้วปั่นประมาณ 1-2 นาทีจนส่วนผสมเนียนละเอียด
3. นำส่วนผสมที่ปั่นละเอียดแล้วมากรองด้วยผ้าขาวบาง บีบเอาเฉพาะน้ำ ใส่หม้อ เตรียมไว้
4. นำน้ำถั่วเหลืองขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือดและมีฟอง (หมั่นคนผสมเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ส่วนผสมไหม้) ปิดไฟ
5. ตักนมถั่วเหลืองที่ได้ใส่แก้ว เติมน้ำตาลทรายแดงลงไปตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน พร้อมดื่ม หรือพักไว้จนเย็น เทใส่ขวดเก็บไว้แช่ในตู้เย็นได้นาน 3 วัน
1. น้ำเต้าหู้
เครื่องดื่มเจเพื่อสุขภาพเมนูแรกที่ต้องนึกถึงคงหนีไม่พ้นการทำน้ำเต้าหู้ ใครเคยลองทำน้ำเต้าหู้แล้วรสชาติไม่ถูกจริตบ้างคะ ? มีทั้งกลิ่นเหม็นเขียวและออกขมด้วยซ้ำ ต้องมาดูวิธีทำน้ำเต้าหู้สูตรจาก RinS CookBook แบบโฮมเมดไว้กินเอง แล้วจะพบว่า น้ำเต้าหู้ทำอร่อยได้ง่าย ๆ สูตรนี้พิเศษที่มีการใส่ถั่วลิสงและอัลมอนด์ลงไปเพิ่มความหอมมันและความเข้มข้น ลองทำดื่มนะคะ ได้สุขภาพอีกด้วย
ส่วนผสม น้ำเต้าหู้
ถั่วเหลือง 16 ออนซ์ (ประมาณ 453 กรัม)
ถั่วลิสง 1 ถ้วย
อัลมอนด์ 1 ถ้วย
น้ำเปล่า 6 ถ้วย (อัตราส่วน 1:3)
น้ำตาลทรายแดง หรือน้ำตาลทรายขาว (สำหรับเพิ่มความหวาน)
วิธีทำน้ำเต้าหู้
1. ใส่ถั่วเหลือง ถั่วลิสง และอัลมอนด์ลงในอ่างผสมแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นแช่น้ำให้ท่วมทิ้งไว้อย่างน้อย 8 ชั่วโมง (หลังจากแช่น้ำทิ้งไว้จนครบเวลาแล้ว ถั่วที่ได้จะพองขึ้นเป็น 3 เท่า)
2. ใส่ถั่วที่แช่น้ำแล้ว 3 ถ้วยลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำเปล่า แล้วปั่นประมาณ 1-2 นาทีจนส่วนผสมเนียนละเอียด
3. นำส่วนผสมที่ปั่นละเอียดแล้วมากรองด้วยผ้าขาวบาง บีบเอาเฉพาะน้ำ ใส่หม้อ เตรียมไว้
4. นำน้ำถั่วเหลืองขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือดและมีฟอง (หมั่นคนผสมเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ส่วนผสมไหม้) ปิดไฟ
5. ตักนมถั่วเหลืองที่ได้ใส่แก้ว เติมน้ำตาลทรายแดงลงไปตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน พร้อมดื่ม หรือพักไว้จนเย็น เทใส่ขวด เก็บไว้แช่ตู้เย็นได้นาน 3 วัน
2. น้ำเต้าหู้งาดำ
มาเพิ่มประโยชน์ให้กับน้ำเต้าหู้เพียว ๆ ด้วยงาดำลงไปหน่อยดีกว่า สีสันจะได้สวยงามและมีกลิ่นหอมอีกด้วย ทำง่าย ๆ เหมือนการทำน้ำเต้าหู้ทั่ว ๆ ไปแต่ใส่งาดำลงไปเพิ่มเท่านั้น สำหรับใครที่อยากใส่เครื่องอื่น ๆ เช่น เม็ดแมงลัก ถั่วแดงต้ม ก็จัดไปได้เลย อิ่มสบายท้องชัวร์
ส่วนผสม น้ำเต้าหู้งาดำ
ถั่วเหลือง 500 กรัม
งาดำ 1-2 ช้อนโต๊ะ
น้ำอุ่น
น้ำตาลทราย
วิธีทำน้ำเต้าหู้งาดำ
1. ล้างถั่วเหลืองให้สะอาด ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ จากนั้นนำไปคั่วในกระทะจนแห้งและมีกลิ่นหอม แล้วนำไปแช่ในน้ำสะอาดทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง
2. ล้างงาดำให้สะอาด ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ จากนั้นนำไปคั่วจนมีกลิ่นหอม
3. ใส่ถั่วเหลืองที่แช่น้ำจนนิ่มแล้วลงในเครื่องปั่น ตามด้วยงาดำคั่ว และน้ำอุ่นจนท่วม ปั่นจนละเอียด ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง เอาเฉพาะน้ำ
4. เทน้ำเต้าหู้งาดำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด หมั่นคนสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้ก้นหม้อไหม้ เติมน้ำตาลทรายลงไป ชิมรสตามชอบ คนผสมให้เดือดอีกครั้ง ยกลงจากเตา ตักใส่แก้ว พร้อมดื่ม หรือนำไปแช่เย็นก่อนดื่ม
3. น้ำเต้าหู้แครอท
ลองทำมาหมดแล้วทั้งน้ำเต้าหู้ และน้ำเต้าหู้งาดำ มื้อต่อไปขอเป็นน้ำเต้าหู้แครอทบ้างดีกว่า อีกหนึ่งเครื่องดื่มเจเพื่อสุขภาพ สูตรนี้เพิ่มน้ำแครอท และกลิ่นหอมของใบเตยเข้าไป ถ้าใครไม่อยากดื่มรสต้นตำรับก็ไม่ต้องเติมน้ำตาลทรายลงไปก็ได้นะคะ อยากให้ลองทำกันค่ะ
ส่วนผสม น้ำเต้าหู้แครอท
ถั่วเหลืองซีก 500 กรัม
น้ำเปล่า 3 ลิตร
น้ำแครอทคั้นเข้มข้น 1 ถ้วย
ใบเตยมัดเป็นปม
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
วิธีทำน้ำเต้าหู้แครอท
1. ล้างถั่วเหลืองให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือ 1 คืน ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
2. ใส่ถั่วเหลืองลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำเปล่า ปั่นจนละเอียด กรองด้วยผ้าขาวบาง เอาเฉพาะน้ำ เตรียมไว้
3. ใส่น้ำเต้าหู้ที่ได้ผสมกับน้ำแครอท คนผสมให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่หม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง ใส่ใบเตย ต้มจนเดือด (หมั่นคนตลอดเวลาไม่ให้ไหม้)
4. พอน้ำเต้าหู้เดือดแล้วลดเป็นไฟอ่อน ตักใบเตยออก ใส่น้ำตาลทรายและเกลือป่น คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย ชิมรสตามชอบ ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น ตักใส่แก้ว พร้อมดื่ม
4. น้ำลูกเดือย
ทุกคนก็รู้ว่าลูกเดือยมีคุณค่ามากมายทั้งบำรุงตับ ป้องกันมะเร็ง และอื่น ๆ จนทำให้คนจีนยกให้ลูกเดือยเป็นยาอายุวัฒนะ ด้วยความที่ลูกเดือยมีคาร์โบไฮเดรตสูง ไม่มีคอเลสเตอรอล ทำให้คนที่อยากลดน้ำหนักก็หันมากินลูกเดือยต้ม หรือถ้าหากไม่อยากเคี้ยวก็ทำเป็นน้ำลูกเดือยกันเลยค่ะ ดื่มง่ายลื่นคอ จับธัญพืชที่ชอบลงไปใส่ด้วยก็เก๋ดีเหมือนกัน
ส่วนผสม น้ำลูกเดือย
ลูกเดือยแห้ง 100 กรัม
ธัญพืชตามชอบ เช่น งาขาว งาดำ เม็ดบัว ถั่วอัลมอนด์
น้ำเปล่า 6 ถ้วย (เพิ่ม-ลดได้ตามความเข้มข้นที่ต้องการ)
น้ำตาลทราย (ตามชอบ)
วิธีทำน้ำลูกเดือย
1. แช่ลูกเดือยในน้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 1 คืนจนลูกเดือยเริ่มนิ่มขึ้น สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
2. ใส่ลูกเดือย ธัญพืช และน้ำเปล่า 3 ถ้วยลงในเครื่องปั่นแล้วปั่นจนส่วนผสมละเอียดเข้ากันเป็นน้ำ จากนั้นนำไปกรองเอาเฉพาะน้ำ เตรียมไว้ (หรือถ้าใครชอบแบบเข้มข้นไม่ต้องกรองก็ได้)
3. เทส่วนผสมที่กรองแล้วใส่ลงหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป (ปริมาณตามต้องการ) คนผสมไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลทรายละลายแล้วชิมรสตามชอบ รอจนส่วนผสมเดือดแล้วปิดไฟ (หรือนำไปต้มในหม้อหุงข้าวก็ได้ตามสะดวก) จากนั้นวางพักไว้จนเย็น ตักใส่แก้ว พร้อมดื่ม
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้
http://cooking.kapook.com/view131831.html
โชห่วย ชุมชน
กดถูกใจ (Like) ติดตามข่าวสารจาก สวัสดี